INFO:

พรากลูกพรากแม่ทำได้ลง ! แม่ร้องโดนอดีตสามีหมอ และแม่สามี บุกชิงตัวลูก 1 เดือน นาทีบีบหัวใจของคนเป็นแม่ ! ถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อเด็กบุกชิงตัวลูกวัย 1 เดือนแบบหน้าตาเฉย ! จากชีวิตดังเทพนิยาย สู่ละครชีวิต ! สาวคิดจะมีชีวิตในฝัน ได้แต่งงานสามีที่เป็นหมอ รพ.เอกชนชื่อดัง กทม. ตั้งแต่อายุ 26 ปี หลังรู้จักกันผ่านแอปพลิเคชัน รายได้สามีแตะ 200,000 บาทต่อเดือน ! ช่วงแรกที่รู้จักกัน เธอก็เอ๊ะใจ เพราะฝั่งอดีตสามีให้หารครึ่งทุกค่าใช้จ่าย แม้กระทั่งค่ารถไฟฟ้าบีเอส แค่สุดท้ายก็ได้ลงเอยกัน แม้จะไม่จดทะเบียนสมรสแต่เธอก็มีความสุขมาก แต่ชีวิตไม่เป็นแบบที่ฝัน เริ่มมีเรื่องราวแปลก ๆ เกิดขึ้น ครอบครัวอดีตสามีไม่ยอมรับในตัวเธอ ห้ามใช้รูปครอบครัวในคลิปงานแต่ง ปม้กระทั่งวันร่วมงาน ยังส่งตัวแทนมาแค่ 3 คน ! ฃตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อดีตสามีไม่เคยให้เธอเข้าบ้าน ต่อให้ไปหาพ่อแม่ เธอก็นั่งรอในรถนานถึง 2 ชั่วโมง แบบห้ามเข้าห้องน้พ ห้ามสตาร์ทรถ ทั้ง ๆ ที่เธอท้องอยู่ ! หนักสุด มีการใช้คำพูดว่า ถ้าก้าวขาเข้าบ้านจะแจ้งความ ออกจาดปากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นย่าของลูกเธอ ! เธอต้องอยู่แบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ที่หอพัก แม้เธอจะตั้งท้องก็ยังต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง แม้จะทนทุกอย่างแต่สุดท้าย อดีตสามีก็เลือกจะเลิกกับเธอ ซ้ำ ยังส่งครอบครัวบุกงัดห้อง มาเก็บของแทน แสดงท่าทางรังเกียจเธออย่างเห็นได้ชัด สวมถุงมือและทิ้งทันทีหลังใช้เสร็จ ไม่สงสารเธอที่ท้องกว่า 16 สัปดาห์ ได้แต่ขังตัวเองไว้ในห้องด้วยความหวาดกลัว หลังจากนั้น มีการให้เงินค่าเลี้ยงดูเดือนละ 10,000 บาท ส่วนตัวเธอต้องกลับบ้านต่างจังหวัดเพราะทนความกดดันไม่ไหว แต่เทื่อถึงวันคลอด อดีตสามีกลับอยากได้ลูกคืน ให้ทนายทำสัญญา ระบุ ห้ามเธอยุ่งเกี่ยงกับลูกโดยเด็ดขาดถ้าให้ฝั่งสามีรับผิดชอบหรือจะเลี้ยงดูบุตรเอง แต่จะไม่ได้รับค่าใช้จ่ายใด ๆ เลยจากฝั่งอดีตสามี แต่เรื่องราวไม่จบเพียงเท่านี้ จากที่เคยตกลงกันว่าให้เธอเจอลูกแค่ 1-2 ชั่วโมงในที่สาธารณะ ห้ามนอนค้างคืน ห้ามผูกพันธ์ ซึ่งไม่ใช่แบบที่ต้องการ นานวันเข้าเธอได้เห็นหน้าตาลูกน้อยลง จนถึงวันเกิดเหตุ 21 มีนาคม เป็นคิวที่เธอจะได้เจอหน้าลูก แต่เมื่อมารับกลับฝั่งแดีตสามีกลับมีพฤติกรรมจะไม่นำลูกมาคืน ซ้ำ ยังพูดว่า ไม่ณุ้ว่าจะให้เจออีกเมื่อไหร่ จนถึงตอนนี้ เธอไม่ได้เจอหน้าลูกมาแล้วกว่า 10 วัน ทั้ง ๆ ที่ อดีตสามีเองก็ไม่เคยจดรับรองบุตรเลยด้วยซ้ำ หลังจากนั้น ยังมีการข่มขู่ผ่านคนกลาง หาว่าเธอทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงทั้งตัวอดีตสามี และต่อโรงพยาบาลต้นสังกัด ล่าสุด ทางมูลนิธิเป็นหนึ่งรับเรื่องแล้ว เชื่อว่าแม่ของอดีตสามีเป็นตัวแปรสำคัญ ฝั่งอดีตสามีก็โตแล้ว เป็นถึงหมอ กลับให้แม่เป็นคนดำเนินการ ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องในครอบครัว วันนี้จึงตัดสินใจ พาคุณแม่เข้าร้องทุกข์กับนางกองตรีธนกฤต ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เบื้องต้น ในทางจริยธรรมของความเป็นแพทย์แล้ว ต้องให้แพทยสภาเป็นผู้ตรวจสอบ แต่ตามข้อกฏหมายแล้ว จะเป็นการร้องเรียนเกี่ยวกับทำงานและการประกอบวิชาชีะมากกว่า แต่จะช่วยตรวจสอบให้แน่นอนก่อน ส่วนพฤติกรรมการแย่งลูกนั้น ต้องตรวจสอบว่าสามารถแจ้งข้อหาใดได้บ้าง เพราะลูกวัยแค่ 1 เดือน จำเป็นต้องได้รับนมแม่ รวมไปถึงต้องตรวจสอบสัญญาที่ฝั่งอดีตสามีบังคับให้ยินยอม และการบุกรุก งัดห้อฃ ซึ่งจะมีฝ่ายกฏหมายเข้ามาดูรายละเอียดทั้งหมด และเป็นตัวกลางหารือกันทั้งสองฝ่าย หากอยู่ด้วยกันไม่ได้จะเข้าสู่กระบวนการการฟ้องศาล อยู่ด้วยกันไม่ได้ไม่เป็นไร แต่ต้องอยู่ร่วมกันในฐานะพ่อแม่ของลูกให้ได้ ซึ่งหากเด็กกลับมาอยู่กับแม่แล้ว ต้องขอให้ศาลเยาวชนและครอบครัวคุ้มครองชั่วคราว u002F อย่างไรก็ตาม ความรับผิดชอบยังอยู่ในฝั่งแม่เพราะพ่อไม่ได้มีจดรับรองบุตร ด้านกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะมีการเข้าไปตรวจสอบว่าเด็กเป็นอย่างไร และดูแลเรื่องของสภาพครอบครัวของทั้งสองฝ่าย รวมไปถึงความสามารถในการเลี้ยงดู ให้เด็กอยู่ในความปลอดภัยมากที่สุด หากตกลงกันไม่ได้ อาจจะต้องไปทบทวนข้อกฏหมายอีกครั้งส่าึวามสามารถของฝั่ง พม.ทำได้แค่ไหนบ้าง